องค์การเภสัช เดินหน้าผลิตยา
องค์การเภสัชฯ เดินหน้าพัฒนาวัตถุดิบและพัฒนาสูตรตำรับยาฟาวิพิราเวียร์ใช้เองในประเทศ เสริมความมั่นคงทางยา ให้ไทยพึ่งพาตนเองได้ระยะยาว
ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ในการรับมือโรคโควิด-19 อภ. มีหน้าที่จัดหายาเพื่อใช้ในการรักษาได้อย่างเพียงพอ ปัจจุบันมียาอยู่ 7 ตัว ที่ทั่วโลกทำใช้สู้กับโรคโควิด-19 ซึ่ง 5 ใน 7 ตัวนั้น อภ.สามารถผลิตได้เอง ทั้งยาคลอโรควิน สำหรับรักษาโรคมาลาเรีย ยาต้านไวรัสเอดส์สูตรผสม โลพินาเวียร์ และริโทรนาเวียร์ ยาต้านไวรัสเอดส์ดารุนาเวียร์ ยาต้านไวรัสเอดส์ริโทรนาเวียร์ และยาอะซิโธรมัยซิน ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ซึ่งทั้งหมดได้สำรองไว้อย่างเพียงพอทั้งในระยะกลางและระยะยาวแล้ว
ส่วนอีก 2 ตัวที่ยังต้องสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ได้สั่งซื้อและสำรองไว้อย่างเพียงพอใช้ในระยะกลางแล้ว ทั้ง ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน จัดซื้อแล้วล้านเม็ด และยาฟาวิพิราเวียร์ จัดซื้อแล้วกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว 100,000 เม็ด ยังคงมีสำรองในคลังของ อภ. 87,000 เม็ด และกำลังจะได้รับส่งมอบเพิ่มในเดือนนี้ (พฤษภาคม 63) เพื่อสำรองอีก 303,860 เม็ด
อย่างไรก็ตาม เพื่อการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ ระยะยาว อภ.มีแผนจะผลิตขึ้นเอง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสั่งซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมเพื่อนำมาพัฒนาสูตรตำรับ ขยายขนาดการผลิต ศึกษาความคงสภาพและประสิทธิผลทางชีวสมมูล เพื่อศึกษาระดับยาในเลือดอาสาสมัครสุขภาพดีเทียบกับยาต้นแบบต่อไป คาด 1 ปี จะได้ข้อมูลพร้อมยื่นขึ้นทะเบียนยาได้ หากผ่านภายในปี 2565 จะสามารถผลิตออกมาใช้ได้
ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) วิจัยพัฒนาการสังเคราะห์วัตถุดิบยาฟาวิพิราเวียร์เองด้วย โดยคาดจะแล้วเสร็จภายใน 3 – 6 เดือน และจะสามารถเริ่มผลิตวัตถุดิบในระดับกึ่งอุตสาหกรรมได้ในเดือนมิถุนายน 2564 ส่วนของสิทธิบัตรยานั้น อภ.จะต้องมีการเจรจากับบริษัทเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อให้สามารถผลิตและจำหน่ายได้ต่อไป