พัฒนาตัวเองจากเภสัชกรหน้าใหม่ สู่ผู้บริหารมืออาชีพ

ถ้าเราคือเภสัชกรจบใหม่ที่มีความมุ่งมั่นและต้องการเติบโตในสายงานที่ใฝ่ฝันและอยากประสบความสำเร็จ นอกจากจะมีความรู้ด้านวิชาการแล้ว ทักษะการบริหาร การสื่อสาร และความเป็นผู้นำล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น การเปลี่ยนบทบาทหน้าที่จากเภสัชกรผู้ปฏิบัติหน้าร้านหรือจ่ายยาให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล คลินิก อื่น ๆ เปลี่ยนบทบาทสู่ผู้บริหาร ซึ่งอาจดูเป็นเรื่องที่น่าท้าทาย แต่ด้วยการพัฒนาของตัวเราเองอย่างต่อเนื่อง การวางแผนเส้นทางอาชีพ และเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ เราก็สามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้ วันนี้ PharmJob จะพาทุกคนไปรู้จักแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้พัฒนาและเติบโตจากเภสัชกรหน้าใหม่สู่ผู้บริหารมืออาชีพ

1.เรียนเสริมทักษะวิชาชีพเภสัชกร

เพิ่มทักษะอย่างต่อเนื่อง  นอกจากตำราเรียนที่เราได้รับมาจากห้องเรียนแล้ว การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมใหม่ก็สามารถทำให้เรามีคลังความรู้มากยิ่งขึ้นทันต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ถ้าอยากประสบความสำเร็จและมีความก้าวหน้าในอาชีพ ควรหมั่นศึกษาหลักสูตรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในวงการยา เพื่อพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

การฝึกฝนทักษะเฉพาะทาง  เมื่อเราเริ่มสนใจที่หมั่นหาความรู้ในทุกด้านที่เกี่ยวกับสายงานของเราโดยตรงก็อย่าลืมที่จะค้นหาสาขาพิเศษที่เราสนใจ เช่น การวิจัยยา การบริหารยาในโรงพยาบาล หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา และพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ

2. พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ

ในการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำในการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการประความสำเร็จในตำแหน่งผู้บริหารในสายงานเภสัชกรรม ดังนั้น เราจะต้องมีการเข้าใจถึงการจัดการงบประมาณ การจัดการพนักงาน และการวางแผนกลยุทธ์ และไปให้ถึงเป้าหมาย

 เรียนรู้วิธีการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนในทีม ฝึกการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีเหตุผล ฝึกการรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนในทีมจะทำให้ทีมของเราแข็งแร่งมากยิ่งขึ้นและประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้น 

3.ทักษะการพูดและการพูดต่อรอง

 สำหรับผู้บริการทักษะการพูดและการพูดต่อรองควรมีในการทำงานและการพบปะลูกค้าแม้แต่คนในทีมเดียวกันทั้งในแง่ของการนำเสนอและการให้คำแนะนำ การฝึกการพูดในที่ประชุม การใช้คำพูดที่ชัดเจนและเป็นมิตรจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีม

การพูดต่อรอง  การพูดคุยที่มีวาทศิลป์ในการพูดคุยกับลูกค้าหรือคนในทีมที่มีประสิทธิภาพ  ช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ เช่น การพูดคุยกับลูกค้า  การตกลงเรื่องสัญญาทางธุรกิจ หรือพูดคุยต่อรองกับคนในทีมได้  

4.มีที่ปรึกษา

การหาที่ปรึกษา หรือผู้ช่วยในการดำเนินธุรกิจเป็นความคิดที่ดีมาก ๆ  เพราะเขาจะช่วยให้เราได้รับคำแนะนำที่มีค่าในการพัฒนาอาชีพ รวมถึงการให้มุมมองที่แตกต่างในการตัดสินใจ จัดเเพลนตารางงานต่าง ๆ ให้กับเราได้ และคอยซัพพอร์ตเราในการตัดสินใจในเรื่องที่ยากที่สุด แนะนำเลยหาที่ปรึกษาในการเริ่มทำธุรกิจสู่การต่อยอดผู้บริการที่ประสบความสำเร็จ

5. การมีวิสัยทัศน์

การมีวิสัยทัศน์ในการเป้นผู้นำที่ดีต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน  วางแผนภาพรวมของอนาคตในระยะยาว  เพื่อให้ทีมงานสามารถเดินตามแผนงานที่วางไว้ได้ การตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและสมเหตุสมผลจะช่วยกระตุ้นให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6.ทักษะการบริหารความเสี่ยง

ผู้นำที่ดีจะต้องรู้จักประเมินและจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเป็นผู้นำที่สามารถปรับตัวได้ดีและสามารถนำองค์กรผ่านการเปลี่ยนแปลงได้จะทำให้คุณยืนหยัดได้ในสายงาน

7. เตรียมรับมือกับทุกแบบทดสอบ

ในวันที่จะก้าวไปถึงความสำเร็จอาจมีบ้างที่ต้องล้มลุกคลุกคลานและยอมรับกับความล้มเหลว  หรือแม้แต่ความสำเร็จที่ได้มาผู้บริหารจะต้องผ่านแบบทดสอบต่าง ๆ ที่เข้ามาให้ได้ เพราะการเรียนรู้จากความผิดพลาดจะทำให้เราประสบความเร็จอย่างที่ตั้งใจด้วยประสบการณ์ที่เราเคยล้มเหลวมาก่อน สิ่งที่สำคัญต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองให้มาก ๆ   รับรองเลยว่าเราจะเป็นผู้นำที่มาจากความมั่นใจในตัวเองและความสามารถในการรับมือกับความแบบทดสอบไปได้ 

ตัวอย่างงาน

สรุป 

ในการเติบโตในสายงานเภสัชกรสู่ผู้บริหารมืออาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์ในทุกขั้นตอน เราจะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้